เผยผลสอบสวนจากอังกฤษ “ดอม หมูป่า” เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย!

ผู้พิพากษาพิเศษของอังกฤษ แถลงสาเหตุการเสียชีวิตของ “ดอม หมูป่า” อดีตกัปตันทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ระบุมาจากการฆ่าตัวตาย

สำนักข่าวบีบีซี ไทย รายงานผลการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต ของ “ดอม หมูป่า” ดวงเพชร พรหมเทพ ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยศาสตราจารย์แคทเธอรีน เมสัน ผู้พิพากษาพิเศษที่ทำหน้าที่สอบสวนการเสียชีวิตประจำเมืองเลสเตอร์ และเซาธ์ เลสเตอร์เชียร์ ได้แถลงสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของดอม หมูป่า ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

ดอม หมูป่า วัย 17 ปี เป็นนักเรียนในหลักสูตรฟุตบอลของวิทยาลัยบรู๊คเฮาส์ คอลเลจ ที่ตั้งอยู่ในมณฑลเลสเตอร์เชียร์ ใกล้เมืองเลสเตอร์ เขาถูกพบหมดสติเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2566 ในหอพักของวิทยาลัย และต่อมาได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเคทเทอริ่ง เจนเนอรัล เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566

ในบันทึกการสอบสวน ศ.แคทเธอรีน ระบุว่า “นายพรหมเทพไม่ได้เข้ารับการดูแลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และเราไม่ทราบสาเหตุว่าเหตุใดเขาจึงกระทำการดังกล่าว” รวมถึงการฆ่าตัวตายครั้งนี้  “ไม่สามารถคาดการณ์มาก่อนหรือป้องกันได้”

นอกจากนี้ “การสอบสวนของตำรวจไม่พบหลักฐานว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องหรือมีเหตุแวดล้อมต้องสงสัย”

ดวงเพชร หรือดอม หมูป่า ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิซิโก้ภายใต้โครงการ Sport Education เดินทางไปศึกษาต่อที่โรงเรียนฟุตบอลบรู๊คเฮาส์ คอลเลจ ฟุตบอล อะคาเดมี (Brooke House College Football Academy) ซึ่งตั้งอยู่ที่มณฑลเลสเตอร์เชียร์ ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว

‘เอียน สมิธ’ ครูใหญ่ของบรู๊คเฮาส์ คอลเลจ กล่าวว่า “เราร่วมไว้อาลัยกับครอบครัวของดอม เพื่อน อดีตเพื่อนร่วมทีม และผู้ที่เกี่ยวข้องกับทุกส่วนของชีวิตดอม”

“ดอมยังเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวบรู๊คเฮาส์ตลอดไป”

“ดอม” มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะกัปตันทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ซึ่งเขาและเพื่อนร่วมทีมติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ในปี 2561 หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันจนปิดกั้นทางออก และพวกเขาต้องหนีน้ำลึกเข้าไปในถ้ำ

ขณะนั้นเด็กชายแต่ละคนมีอายุระหว่าง 11-16 ปี และโค้ชอายุ 25 ปี ต้องอยู่ในความมืดเป็นเวลา 9 วันโดยไม่มีอาหาร ก่อนที่นักดำน้ำชาวอังกฤษจะพบพวกเขา ในเวลานั้นดอมอายุได้ 13 ปี ซึ่งเขาเป็นคนแรกในคลิปวิดีโอที่สังเกตเห็นนักดำน้ำชาวอังกฤษ จึงรีบตะโกนขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นภาพของเด็กชายและสมาชิกทีมหมูป่าคนอื่นๆ ก็ถูกเผยแพร่จนโด่งดังไปทั่วโลก

ที่มา: บีบีซีไทย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *