5 เรื่องสุดว้าวของ #แด๊ดดี้ศิธา “ตัวจี๊ด” สายประชาธิปไตยขวัญใจแฟนด้อม

นับจากหลังเลือกตั้งผู้ว่า กทม. จนมาถึงเลือกตั้งใหญ่ 2566 อันร้อนแรงครั้งนี้ ชื่อของนักการเมืองหนุ่มหล่อวัยแด๊ดดี้อย่าง น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ “ผู้พันปุ่น” ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย ก็ฉายแสงวาววับ แม้จะไม่ได้ชนะการเลือกตั้งทั้งสองสนามก็ตาม แต่กลับชนะด้วยกระแสความนิยมที่มาแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  

ถ้าไปดูการแสดงความเห็นของชาวเน็ตแฟนคลับก็จะพบว่า ความนิยมชมชอบในตัวผู้พันปุ่นเกิดจากบุคลิกที่ต่างไปจากนักการเมืองคนอื่นๆ เขามาในลุคคูลๆ เป็นกันเอง เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะลีลาการดีเบตแบบตรงไปตรงมาฟาดไม่ยั้งกับฝั่งเผด็จการ แต่ก็เต็มไปด้วยความอารมณ์ดี เป็นคนมีอารมณ์ขันสนุกสนาน ทำให้ถูกอกถูกใจจนเป็นที่รักของผู้คนทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ จนกระแสพุ่งมาถึงจุดที่เกิดเป็นแฮชแท็ก #แด๊ดดี้ขยี้เผด็จการ และ #แด๊ดดี้ศิธา ติดเทรนด์ทวิตเตอร์หลายครั้ง ไปจนถึงขั้นมีแฟนด้อมเป็นของตัวเองในที่สุด นอกจากเรื่องการเมืองแล้ว แด๊ดดี้ศิธายังมีเรื่องราว  “สุดว้าว” ที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้ ‘ทีมข่าวมหาชน’ จะพาไปขุด 5 เรื่องสุดว้าวของแด๊ดดี้กัน!!

  1. ปัจจุบันแด๊ดดี้ศิธา อายุ 57 ปี ในวัยเด็กเขาเป็นคนหัวดี เรียนเก่งสุดๆ โดยเป็นศิษย์เก่าจากโรงเรียนเซนต์ดอมินิก รุ่นที่ 15 มาจบ ม.ปลาย ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และสามารถสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24 (ตท.24) โดยได้เป็นประธานรุ่น จบปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต จากโรงเรียนนายเรืออากาศ จากนั้นมาเรียนต่อที่โรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่ 81 รับราชการในสังกัดกองทัพอากาศ จนได้รับตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกจากราชการ คือ รองหัวหน้าแผนกแผนร่วม กองนโยบายและแผน กรมยุทธการ กองทัพอากาศ เป็นนักบินขับไล่ F-5 และไต่เต้ามาเป็นนักบินขับไล่ F-16 ประมาณ 8 ปี ผู้พันปุ่นหรือผู้ฝูงปุ่น เป็นเรืออากาศโทคนแรกของไทยที่ได้ขับเครื่องบิน F16

  1. แด๊ดดี้มีศักดิ์เป็นทายาทสืบเชื้อสายมาจากรัชกาลที่ 4 เนื่องจาก ‘ท่านแม่’ หม่อมราชวงศ์จารุวรรณ ทิวารี (ราชสกุลเดิม: วรวรรณ) เป็นพระนัดดาของหม่อมเจ้าดุลภากร วรวรรณ พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ (ซึ่งเป็นพระราชโอรสลำดับที่ 56 ใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) กับหม่อมอินทร์

  1. เขาเป็นหนึ่งในนายทหารที่ร่วมแผนปฏิบัติการ โปเชนตง 1/2″ เมื่อปี 2546 ในการช่วยเหลืออพยพคนไทยจากเหตุจลาจลที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ในช่วงที่ประเทศกัมพูชาประกาศตัดความสัมพันธ์กับประเทศไทยจากความเข้าใจผิดที่มาจากข่าวลือ และถูกย้ำต่อโดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็นของกัมพูชา จนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายอย่างหนัก ซึ่งครั้งนั้นสามารถพาคนไทยกว่า 700 คน กลับสู่เมืองไทยได้อย่างปลอดภัยภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังเหตุจลาจล ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ไทยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศก็ร้าวลึกอยู่นานกว่าจะกลับมาสู่ระดับปกติ

  1. แด๊ดดี้เคยสร้างเซอร์ไพร้ส์ให้กับวงการกีฬาโป๊กเกอร์ในประเทศไทย เมื่อมีข่าวว่า มีคนไทยชื่อคุ้นหูคอการเมืองอย่าง “ผู้พันปุ่น” น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ไปเข้าร่วมการแข่งขันโป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติในยุโรปเมื่อปีก่อน โดยสามารถคว้าอันดับ 6 ในการแข่งขัน EPT London High Roller 2022 รับรางวัลไป 72,850 ปอนด์ หรือกว่า 3,200,000 บาท
ศิธา ทิวารี ในการแข่งขัน EPT London High Roller 2022 ประเทศอังกฤษ

 

  1. แด๊ดดี้เคยเป็นนักแสดงเมื่อนานมาแล้ว โดยเคยชิมลางกับงานละครเรื่อง “ความรักสีดำ” ออกอากาศทาง ททบ.ช่อง 5 เมื่อปี พ.ศ. 2538 พระเอกนางเอกคือ ยุรนันท์ ภมรมนตรี และ จินตหรา สุขพัฒน์ ร่วมด้วยนักแสดงดังๆ ยุคนั้นอย่าง กษาปณ์ จำปาดิบ ลีลาวดี วัชโรบล และมี ศิธา ทิวารี ที่ตอนนั้นกำลังเป็นหนุ่มเนื้อหอม มีทั้งถ่ายแบบและงานโฆษณาเลยถูกชวนมาแสดงด้วย ละครเรื่องนี้กำกับการแสดงโดย จารึก สงวนพงษ์ ถือเป็นละครเรทติ้งดีมากในยุคนั้น และ ‘แซม ยุรนันท์’ ผู้ชักชวน ปุ่น ศิธา มาเล่นละครครั้งแรกในเรื่องนี้ ก็ได้รับรางวัลเมขลา นักแสดงนำชายดีเด่น ประจำปี 2538 ด้วย แด๊ดดี้ศิธากับแด๊ดดี้แซม ยังคงเป็นสหายรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทแนบแน่นกันมาจนถึงทุกวันนี้.

คลิปจากละคร “ความรักสีดำ” https://youtube.com/clip/Ugkxuhz53JWHH0Cbgd1suQmMg25Pa2d1nrFP

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *