การเมือง

ยังคงสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองไม่หยุด จากประเด็นการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่นำไปสู่ความพยายามจะปลุกผี ‘ไอทีวี’ ว่ามีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่ออยู่ จนเรื่องราวบานปลายกลายเป็นไฟลามทุ่งที่กำลังเผาไหม้คนใน “ขบวนการปลุกผีไอทีวี” เสียเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อพิรุธต่างๆ ทั้งโดนแฉสาวไส้ทุกคนที่เกี่ยวข้องในขบวนการนี้ จนต่างคนต่างโบ้ยเอาตัวรอดกันพัลวัน “ทีมข่าวมหาชน” สรุปหลักฐานสำคัญ 7 ข้อที่ชี้ชัดว่า ไอทีวีได้สิ้นสุดสถานะความเป็นสื่อมายาวนานถึง 16 ปีแล้ว ดังนี้ วันที่ 7 มี.ค. 2550 คณะรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ มีมติให้ "ยกเลิกสัญญาสัมปทานจัดตั้งสถานีโทรทัศน์เสรี และสั่งให้ยุติการออกอากาศ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี" ก่อนจะแปรสภาพเป็นช่อง TITV และกลายเป็นจอดำอีกครั้งในปีถัดมา...

นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นจากการเลือกตั้ง 2566 “ทิม – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ผู้ประกาศพร้อมเป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ก็กลายเป็นที่จับตามองทันที สปอร์ตไลท์จากทุกสื่อทั่วโลกฉายจับมาที่นักการเมืองหนุ่มคนนี้ด้วยความสนใจเรื่องราวของเขา จนกลายเป็นที่กล่าวถึงมากมายในหน้าสื่อ และคงเป็นความบังเอิญที่ “ทิม พิธา” ว่าที่นายกรัฐมนตรีหนุ่มของไทย มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต ทั้งบุคลิก หน้าตาดี ทัศนคติ และรสนิยมบางอย่างที่มีส่วนคล้ายกันกับ นายกรัฐมนตรี “จัสติน ทรูโด” ของประเทศแคนาดา มาดูกันว่า ‘ความเหมือน’ ในความต่างของผู้นำรัฐบาลจากสองประเทศ...สองซีกโลก มีเรื่องบังเอิญเหมือนอะไรบ้าง? ทั้งทรูโดและพิธา เป็นลูกชายและพี่ชายคนโตของครอบครัวเหมือนกัน เป็นผู้นำที่มีบุคลิกหน้าตาดึงดูดใจผู้คน และต่างก็เคยเป็นนายแบบขึ้นปกนิตยสารมาแล้ว พิธาเคยเป็น...

อาจารย์ศิโรตม์ถ่ายภาพรวมประเด็นฟาดฟันทางsocial ระหว่างโฟกัสกับมัลลิกา

วิวาทะเดือด หลัง รมว.ประจำสำนักนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโหวตนายกฯ ของนายพิธา เป็นเรื่องแพ้แล้วพาล ล่าสุด "สวยลากไส้" รอง โฆษกพรรคก้าวไกลออกมาสวนแบบแรงได้ใจ "หัดละอายซะบ้างเป็นส.ส.ไม่เคยทำเพื่อประชาชน" หลังนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์พาดพิง ตำหนินายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ที่ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ โดยอ้างว่าขั้วอำนาจเก่าพยายามกดดัน ส.ว.ไม่ให้โหวตเลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ เพื่อหวังพลิกขั้วรัฐบาลว่า เลขาพรรคก้าวไกลต้องยอมรับในระบอบประชาธิปไตยอย่างที่เคยใช้มาตลอด การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อแพ้โหวตแล้วกลับมาโจมตีพาดพิง อ้างว่ามีอำนาจเก่ากดดัน ส.ว.ไม่ให้โหวตสนับสนุนนั้น นายธนกร กล่าวว่า...

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเผยณัฐวุฒิอยู่ในเกณฑ์อภัยโทษต้องใส่กําไล EM 3 เดือน พร้อมห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง

กลายเป็นแฮชแท็กติดเทรนด์อันดับ 1 ข้ามวันข้ามคืนไปแล้วสำหรับ #ชลน่านลาออกกี่โมง ที่หลังจาก พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทำเอาประชาชนเดือด ทวงสัญญาที่หมอชลน่านเคยพูดไว้ตอนหาเสียง เป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับความเห็นในโลกโซเชียล ที่ตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนมาถึงเช้าวันที่ 18 สิงหาคมนี้ แฮชแท็กในทวิตเตอร์ที่ยังคงค้างอยู่อันดับ 1 มาหลายชั่วโมงแล้วคือ #ชลน่านลาออกกี่โมง โดยมีทั้งทวิตถามตรงไปยังพรรคเพื่อไทย และมีการนำเอาคลิปเก่าจากการขึ้นเวทีดีเบตครั้งหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรค และที่ไปออกรายการสัมภาษณ์ต่างๆ ของนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยพูดไว้ตอนหาเสียงว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับพรรคที่มีลุง ถ้าจับมือตัวเองจะลาออก ทั้งนี้ ประชาชนในโซเชียลต่างตั้งคำถามและต้องการให้หมอชลน่านทำตามที่ตัวเองเคยลั่นวาจาเอาไว้ โดยมีการย้ำคำพูดนี้ตามเวทีต่างๆ และได้มีคนนำไปเปรียบเทียบกับสมัยที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค เมื่อพรรคไปเข้าร่วมรัฐบาลประยุทธ์ เนื่องจากเขาเคยประกาศไม่สนับสนุน...

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวหาทหารอยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ เว็บ pulony.blogspot.com ที่ใช้ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร IO โจมตีประชาชน สร้างความแตกแยกในสังคม – สุมไฟใต้ – สร้างความมั่นคงให้กับการสืบทอดอำนาจ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ส.ส.พลังประชารัฐ อัดทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย มั่วนิ่มโยงการเมืองกับการตัดสิทธิ์GSP ไม่เห็นแก่ปากท้องประชาชน

นับจากหลังเลือกตั้งผู้ว่า กทม. จนมาถึงเลือกตั้งใหญ่ 2566 อันร้อนแรงครั้งนี้ ชื่อของนักการเมืองหนุ่มหล่อวัยแด๊ดดี้อย่าง น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ “ผู้พันปุ่น” ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย ก็ฉายแสงวาววับ แม้จะไม่ได้ชนะการเลือกตั้งทั้งสองสนามก็ตาม แต่กลับชนะด้วยกระแสความนิยมที่มาแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   ถ้าไปดูการแสดงความเห็นของชาวเน็ตแฟนคลับก็จะพบว่า ความนิยมชมชอบในตัวผู้พันปุ่นเกิดจากบุคลิกที่ต่างไปจากนักการเมืองคนอื่นๆ เขามาในลุคคูลๆ เป็นกันเอง เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะลีลาการดีเบตแบบตรงไปตรงมาฟาดไม่ยั้งกับฝั่งเผด็จการ แต่ก็เต็มไปด้วยความอารมณ์ดี เป็นคนมีอารมณ์ขันสนุกสนาน ทำให้ถูกอกถูกใจจนเป็นที่รักของผู้คนทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ จนกระแสพุ่งมาถึงจุดที่เกิดเป็นแฮชแท็ก #แด๊ดดี้ขยี้เผด็จการ และ #แด๊ดดี้ศิธา ติดเทรนด์ทวิตเตอร์หลายครั้ง ไปจนถึงขั้นมีแฟนด้อมเป็นของตัวเองในที่สุด นอกจากเรื่องการเมืองแล้ว แด๊ดดี้ศิธายังมีเรื่องราว  “สุดว้าว” ที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้ ‘ทีมข่าวมหาชน’...

สตช.มีคำสั่งโยกย้าย 3 นายตำรวจควบคุมฝูงชน