ลดความแออัดใน รพ.สังกัด กทม. – เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหากโรคโควิด-19 ระบาดระลอก 2

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรการลดความแออัดในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ ได้รณรงค์เรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ได้แก่ การจัดพื้นที่นั่งรอรับบริการในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วย โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 เมตร เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล รวมถึงลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยมีแนวทางการรับยาของผู้ป่วย 3 แนวทาง คือ การรับยาที่โรงพยาบาล เพื่อยืดระยะเวลาการนัด การรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน และการรับยาทางไปรษณีย์ โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้าน ลดการเดินทาง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับผู้ใช้บริการหรือญาติที่ต้องการเข้าเยี่ยมผู้ป่วย ขอแนะนำให้เยี่ยมผ่านโทรศัพท์ด้วยวิธีวิดีโอคอลหรือวิธีอื่นแทนการเดินทางมาโรงพยาบาล เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ ขณะเดียวกันได้มีการเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย การเปิดให้บริการคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) บริเวณด้านนอกอาคาร เพื่อป้องกันและตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่ต้องสงสัยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การปรับลดบริการบางประเภทในโรงพยาบาล เช่น การผ่าตัดไม่เร่งด่วน การรับยา การนัดตรวจรักษาเฉพาะโรค และการเข้าเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อลดความเสี่ยงของผู้เข้าใช้บริการ

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น ในส่วนของศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ยังได้รับแจ้งเหตุผู้ป่วยฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 เมื่อมีการแจ้งเหตุ พยาบาลจะคัดกรองอาการเจ็บป่วย รวมถึงประวัติเสี่ยงโรคโควิด-19 ในกรณีผู้ป่วยมีความเสี่ยงเข้าเกณฑ์ PUI จะจัดทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินจากศูนย์เอราวัณและโรงพยาบาลที่มีชุด PPE ไปรับผู้ป่วย พร้อมประสานโรงพยาบาลปลายทางให้เตรียมพร้อมรับผู้ป่วย PUI รวมถึงศูนย์เอราวัณจะติดตามผลการตรวจโรคโควิด-19 ของผู้ป่วยรายนั้น เพื่อแจ้งทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน ตลอดจนมีการเตรียมบุคลากร อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ รวมถึงประชุมโรงพยาบาลหลักทั้ง 9 แห่ง ในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในกรณีมีการระบาดระลอก 2 โดยใช้ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐาน (BLS) และระดับสูง (ALS) ในการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่เหมาะสมต่อไป