กกพ.เล็งพิจารณาลดค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจาก 4.77 เหลือ 4.70 บาท

จับตาอนุคณะกรรมการกกพ.เตรียมพิจารณาลดค่าไฟฟ้าเอฟที ตามข้อเสนอของกฟผ.

หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ค่าไฟและค่าเอฟที ที่ปรับตัวสูงขึ้นจนกลายเป็นภาระของประชาชน ล่าสุดนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า วันที่ 21 เมษายนนี้ อนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) จะพิจารณาเรื่องการปรับลดค่าไฟฟ้าเอฟทีสำหรับ งวดที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2566) ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทำหนังสือฉบับใหม่ขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าแทนประชาชนจาก 5 งวด เป็น 6 งวด ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่ 2 ของปีนี้ลดลงจาก 4.77 บาทต่อหน่วย เป็น 4.70 บาทต่อหน่วย โดยอนุกรรมการฯมีตัวแทนจากหลายส่วน อาทิ กระทรวงการคลังที่ดูแลเรื่องวินัยการเงินการคลังและหนี้สินร่วมอยู่ด้วย หากได้รับความเห็นชอบ จะเสนอบอร์ด กกพ.พิจารณาสัปดาห์หน้า เพื่อลงนามประกาศให้มีการรับฟังความเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย จากนั้นจะนำเข้าบอร์ด กกพ. เพื่อมีมติประกาศค่าไฟฟ้าต่อไป คาดว่าจะชัดเจนภายในต้นเดือนพฤษภาคมนี้

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)

“เดิม กฟผ.ส่งหนังสือมาช่วงต้นเดือนเมษายน แต่หัวหนังสือไม่ระบุยืดหนี้ชัดเจน ใช้ว่ากรณีศึกษา กกพ.จะให้ทำมาใหม่พร้อมยืนยันเรื่องสภาพคล่องหากยืดหนี้มาด้วย จากนั้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน กฟผ.ได้นำหนังสือฉบับใหม่ส่งมา ระบุข้อเสนอยืดหนี้ และยืนยันว่าสามารถจัดการด้านสภาพคล่องได้ แต่งวด 3 (กันยายน-ธันวาคม 2566) อาจจะเกิดปัญหาสภาพคล่องจึงไม่สามารถที่จะยืดหนี้ได้อีก ประชาชนต้องคืนหนี้แก่ กฟผ. โดยหนี้วงเงินเต็มนั้น อยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท และมีการคืนหนี้ในงวดที่ 1 (มกราคม-เมษายน 2566) ไปแล้ว วงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *