เทียบชอตต่อชอตวิธีรับมือ “ผู้เห็นต่าง” จากสองพรรค…ดุดันไม่เกรงใจใคร vs ทรงอย่างสวย

ช่วงหาเสียงเลือกตั้งทีไร เป็นธรรมดาที่จะต้องมีบรรดาแฟนคลับพ่อยกแม่ยกของแต่ละพรรคมาเป็นกองเชียร์ให้กำลังใจผู้สมัครที่ตัวเองชื่นชอบ ขณะเดียวกันก็อาจมีฝ่ายที่ไม่ชอบ ไม่ว่าจะถูกจัดตั้งมาถือป้ายหรือมาด้วยตัวเองจริงๆ เพื่อแสดงออกทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ อยู่ที่ว่าพรรคใดจะมีวิธีการรับมือแบบไหน

จะรับมือแบบ “ผู้เจริญแล้ว” สไตล์สุภาพชนที่เคารพสิทธิทุกคนถ้วนหน้า หรือรับมือแบบเน้นความรุนแรงตามความเคยชิน ชนิด “ดุดันไม่เกรงใจใคร” ก็มีตัวอย่างให้เห็น อยู่ที่ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงจะใช้ดุลยพินิจหรือวิจารณญาณเลือกเอาคนที่รักพรรคที่ใช่ด้วยสติปัญญานั่นเอง

เทียบตัวอย่างวิธีรับมือของสองฝั่งการเมืองคู่แข่งสำคัญ อย่าง พรรคก้าวไกล ที่ไปตั้งเวทีปราศรัยหาเสียงเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ที่สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร ขณะที่กำลังเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม พรรคก้าวไกล ทั้ง 33 เขต ปรากฏว่ามีบุคคล 4 คน เป็นชาย 1 คน สวมหมวกแก็ปและผ้าคลุมลายทหารปกปิดใบหน้า และผู้หญิงอีก 3 คน ยืนถือป้ายข้อความต่อต้าน บริเวณใกล้กับเวที แต่ เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ ที่กำลังปราศรัยบนเวทีก็ประกาศว่ายินดีเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่มาถือป้ายได้แสดงออก

ต่อมา ช่อ พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้เดินเข้าไปยกมือไหว้และสอบถามความต้องการของกลุ่มบุคคลดังกล่าว และให้อ่านป้ายข้อความที่ถือมา แต่ป้าคนหนึ่งบอกว่า “อ่านหนังสือไม่ออก” ส่วนชายที่คลุมผ้าลายทหารปกปิดใบหน้ามีท่าทีไม่พอใจ ตอบคำถามช่อ พรรณิการ์ ว่าต้องการมาแสดงออกตามป้ายที่เขียน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างปกติไม่เกิดความรุนแรงใดๆ

ขณะที่อีกเวที วันที่ 13 มีนาคม ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสมาชิกคนสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามแนวทางในการพัฒนาพื้นที่บ้านโป่ง แต่ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางถึงได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและประชาชนผู้เห็นต่างซึ่งเป็นสตรีสูงอายุ 1 คน ได้มายืนดักขบวนนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงออก พร้อมตะโกนด่าและตำหนิการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบ 2 นาย และตำรวจชายอีกหลายนายรุมกันเข้าสกัด โดยการเข้าไปกระชากและลากตัวหญิงสูงอายุพร้อมกับเอามือปิดปากไม่ให้ตะโกนด่านายกฯ

จากนั้นจนท.ทั้งชายหญิงก็พยายามกระชากหญิงสูงวัยเข้าไปยังซอกรถตู้และเอาร่มกางเพื่อกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวเก็บภาพ แม้ผู้สื่อข่าวจะพยายามเตือนและห้ามปรามว่า ‘พี่ค่อยๆ ครับ ภาพมันจะออกมาดูไม่ดีนะ’ แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่กลับมองหน้าแล้วใช้มือปิดกล้องและผลักแขนผู้สื่อข่าวออกไป

สุดท้ายตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ได้แจ้ง 3 ข้อหาหนัก กับหญิงสูงวัย (ป้าวันนา) ก่อนจะได้ประกันตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บตามร่างกายจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมการ์ดนายกฯ

https://www.youtube.com/watch?v=_TbO8SlYZfo

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *