ชัดยิ่งกว่า FHD! ‘นนกุล’ รับจีบ ‘แอฟ ทักษอร’ ยังไม่ถึงขั้นแฟน แต่พร้อมติดจรวดความสัมพันธ์

ตอบแมนๆ แบบชัดเจนยิ่งกว่า FHD พระเอกหนุ่ม “นนกุล ชานน” รับคุย “แอฟ ทักษอร” จริง! แต่ยังไม่ใช้คำว่าแฟน เผยเป็นฝ่ายจีบโดยพัฒนาความสัมพันธ์จากพี่น้อง พร้อมติดจรวดความสัมพันธ์จากแฟนไปภรรยา และขอบคุณทุกแรงเชียร์

หลังกองเชียร์ลุ้นกันมานาน ว่าคู่พระนางรุ่นพี่รุ่นน้องอย่าง “แอฟ – ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” กับ “นนกุล – ชานน สันตินธรกุล” จะพัฒนาความสัมพันธ์ไประดับไหน หลังปรากฎภาพความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะเวลาที่ผ่านมาล่าสุดหนุ่ม “นนกุล” ก็ได้ออกมาตอบชัดเจนแบบแมนๆ อย่างให้เกียรติฝ่ายหญิง ถึงความสัมพันธ์กับนักแสดงสาวรุ่นพี่ โดยยอมรับว่ากำลังคุยกันอยู่ และตนเป็นฝ่ายเดินหน้าจีบ การเปิดใจครั้งนี้นนกุลได้ตอบคำถามสื่อในหลายเรื่องราวและความรู้สึกของเขา

ขอถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ไหม?
“ได้ครับ ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกๆ ด้วยนะครับ วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ตัวผมได้รับแค่ข้อสรุปอย่างเดียวว่าจะไม่สัมเรื่องส่วนตัว ประกอบกับผมที่เห็นด้วย เพราะผมรู้สึกว่างานฌาปนกิจ(พ่อของแอฟ) ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนเลย เลยรู้สึกว่าเหมาะสมที่จะยังไม่พูดอะไรก็แล้วแต่ที่จะสร้างกระแสใดๆ ก็ตามที่มันจะทำให้มีเกิดการวิพากย์วิจารณ์ทำให้จิตใจพี่เขาไม่ดี แล้วอีกอย่างก็เพิ่งเลย 1 เดือนมา 2 วันเอง”

วันนี้พร้อมจะพูดไหม?
“แน่นอนครับ (ความสัมพันธ์คืออะไร?) ผมคุยกับพี่แอฟอยู่ครับ จริงๆ หลังจากซีรีส์ถ่ายจบก็มีคุยกันตามประสาพี่น้องเรื่อยๆ แต่เรารู้สึกว่าได้ยิ่งคุยกับพี่เขาเราก็ยิ่งรู้สึกว่าชอบพี่เขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าจะให้บอกเซ้นส์ขยับความสัมพันธ์ จากพี่กับน้องจนพัฒนาขึ้นถ้าให้รู้สึกชัดขึ้นจริงๆ ก็น่าจะเพิ่งก่อนงานคุณพ่อพี่แอฟไม่นานครับ”

เราเป็นคนจีบพี่เขา?
“ใช่ครับ แรกๆ ก็หวั่นๆ นิดหน่อย (หัวเราะ) แต่เราก็พยายามในแบบของเรา ก็อาจจะมีกลัวแห้วบ้าง แต่สุดท้ายเราให้ความจริงใจเต็มร้อยครับ”

ชอบเขาตรงไหน?
“เขาเทคแคร์คนอื่นดีมากๆ พี่เขาใจใส่ทุกรายละเอียดทุกคนจริงๆ เราเห็นสิ่งนี้แล้วประทับใจตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ก็ยังประทับใจอยู่ครับ”

ความสัมพันธ์เกิดจากกองถ่ายไหม?

“ผมว่าค่อยๆ แล้วกันครับ เริ่มค่อยๆ ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่ผมมีอาการป่วยระหว่างถ่ายทำ พี่เขาส่งของมาเยี่ยม เรารู้สึกประทับใจแล้วจากนั้นก็เริ่มค่อยๆ คุย”

วิธีการสื่อสารที่ทำให้เขารู้ว่าเราสนใจ?
“ไม่ได้บอกตรงๆ เราก็พยายามชวนพี่เขาไปทานข้าว แล้วก็มีชวนไปดูหนัง”

ต้องผ่านด่าน “น้องปีใหม่” ก่อนไหม?
“มีบ้างครับ น้องปีเป็นคนน่ารักอยู่แล้วครับ เวลาเจอน้องปีเข้าได้กับทุกคนอยู่แล้ว”

ก่อนสนิทและมาสนิทกัน เรารู้สึกเขาเปลี่ยนไปเยอะไหม สิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เรารู้จัก?
“ณ ตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนนะครับ ก็อย่างที่บอกไปว่าความสัมพันธ์เริ่มชัดเจนทั้งสองคน ตอบรับทั้งสองคนเพิ่งจะก่อนงานคุณพ่อ(แอฟ) ไม่นาน”

วันนี้มาพูดได้บอกเขาไหม?
“มีบอกแน่นอนครับ (เขาว่ายังไงบ้าง?) ก็ตอบตามความเป็นจริง (ตามความรู้สึก?) ใช่ๆ”

“พี่แอฟ” ออกงานครั้งหน้า ก็คุยเรื่องนี้ได้?
“แน่นอนครับ (ยิ้ม)”

แรงเชียร์ แรงสนับสนุนจากแฟนคลับ?
“ขอบคุณทุกๆ คนมากเลยครับ ที่คอยเชียร์ คอยสนับสนุนมากมายขนาดนี้ เราก็เป็นเหมือนคนธรรมดาทั้งคู่ที่ดีใจว่า อย่างน้อยความชอบพอของเราสองคนทำให้ทุกคนยิ้มได้”

อย่างเรื่องของความรักต่างวัยเรามองยังไงบ้าง?
“ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอะไรครับ สุดท้ายไม่ ว่าจะวัยไหนหรือเพศไหนก็แล้วแต่มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้าเกิดเราเข้าใจกันผมว่ามันก็โอเคครับ”

“แอฟ” เขามีกำแพงเรื่องอายุไหมตอนที่เราคุยกับเขาหรือตัวเราเองกลัวตรงนี้ไหม?
“ตัวผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันวันแรกที่เราค่อยๆ คุยค่อยๆ  พยายามชวนคุย แต่พอมาถึงวันนี้ ณ วินาทีนี้ผมก็หวังว่าจะไม่มีกำแพงนั้นเหลือแล้ว”

แสดงว่าวันนี้ยังไม่ได้สรุปสถานะว่าจะยังไง?
“ครับ คือตอนนี้ผมพูดได้เต็มบอกว่าผมคุยกับพี่เขาอยู่ แล้วก็เป็นคนเดียวเท่านั้นที่คุยด้วยอยู่ตอนนี้ แต่เราทั้งสองยังไม่ได้ใช้คำว่า ‘แฟน’ นะครับ แต่บังเอิญว่าผมกับพี่เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญเรื่องคำนี้มากๆ แต่ ก็ไม่ต้องห่วงถ้าวันไหนที่เราสองคนเลือกที่จะใช้คำว่าแฟนขึ้นมา ระยะเวลาระหว่างคำว่าแฟนไปจนถึงภรรยาเนี่ยติดจรวดแน่นอน”

เราวางแผนไกลขนาดนั้นเลยเหรอ?
“แน่นอนครับ เราโตๆ กันทั้งคู่แล้วเนอะ แล้วผมก็เข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะใช้เวลานานขนาดนั้นเพราะเดี๋ยวพี่เขาไม่รอผม (ยิ้ม)”

แล้ววันที่จะขอเขาเป็นแฟนได้วางแผนไว้ไหมว่าเราจะทำอะไรบ้าง?
“ผมว่ายังไม่มีอะไรพิเศษนะครับ คิดว่าจะให้เรียบง่ายที่สุดแล้วก็ไม่เอิกเกริกอะไรมากมายครับเพราะสุดท้ายมันก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่ขยับสถานะเป็นแฟนกัน”

ที่บอกถ้าคบสถานะแล้วก็จะเร็วเลยอันนี้ฝั่งเขารับรู้ไหม?
“เขารับรู้หรือยังนะ (หัวเราะ) ก็ยังครับ”

อย่างหลายๆ โมเมนต์คนก็ประทับใจมาก เราคอยอยู่เป็นกำลังใจแล้วก็ช่วยทุกอย่าง?
“เราแค่ทำในสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราสบายใจที่จะทำเราขอแค่ยืนอยู่ตรงนี้ คือจริงๆ ที่งานคุณพ่อพี่แอฟจริงๆ ผมก็บอกว่าผมไม่ค่อยได้ช่วยอะไรขนาดนั้นนะ จะเป็นญาติๆ เพื่อนๆ พี่เขามากกว่าที่คอยช่วยเหลือมากมาย เราไปคือเราก็แค่ไปเหมือนเป็นกำลังใจให้พี่เขาอย่างน้อยก็ถ้าเกิดหันมาก็มีกำลังใจอยู่ตรงนี้นะครับ”

หลายคนบอกว่านี่คือการพิสูจน์รักแท้?
“ครับ (ยิ้ม)”

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *