กทม.เร่งควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 กำชับสถานประกอบการเข้มงวดมาตรการ COVID Free Setting

นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ ได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานเขต 50 เขต สำนักเทศกิจ โรงพยาบาล กทม. และศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน วางแผนการตรวจคัดกรองโควิด 19 และฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้ประชาชน ขณะเดียวกันได้บริหารจัดการศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI)  และ  Hospitel  ตามแนวทางของหน่วยงานเครือข่าย รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อโควิด 19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) หากมีผลเป็นบวก จะตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR หากพบผลติดเชื้อ จะประสานศูนย์เอราวัณ ซึ่งเปิดช่องทางการรับแจ้งผ่านสายด่วน 1669 สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีผลตรวจยืนยันติดเชื้อ เพื่อประเมินอาการและส่งต่อข้อมูลให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาตามอาการความรุนแรงของโรค ตลอดจนเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบช่องทางการติดต่อ หากพบว่าตนเองติดเชื้อสามารถเข้าสู่ระบบการรักษา โดยติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 สายด่วนศูนย์เอราวัณ 1669 กด 2 หรือสายด่วนโควิด (EOC) 50 เขต ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการประเมินอาการและเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด นอกจากนั้น ยังได้สร้างการรับรู้ให้ประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ เข้าใจถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทาง 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ประกอบด้วย (1) Distancing เว้นระยะห่าง (2) Mask wearing สวมหน้ากากอนามัย (3) Hand washing ล้างมือ (4) Testing คัดกรองวัดไข้ (5) Reducing ลดการแออัด และ (6) Cleaning ทำความสะอาด หากมีอาการป่วยให้สังเกตอาการตนเอง เมื่อไม่แน่ใจสามารถปรึกษาสายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ 1646 หรือเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อรับการดูแลรักษาที่เหมาะสม

นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า สำนักเทศกิจ ได้จัดชุดตรวจบูรณาการเพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจสอบสถานประกอบการและร้านอาหาร โดยกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting  ด้านสิ่งแวดล้อม สถานที่ บุคลากรที่ให้บริการ รวมถึงผู้รับบริการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดและปฏิบัติตามมาตรการที่จำเป็นต้องปฏิบัติ ได้แก่ การเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น การสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ และเจ้าของสถานที่ต้องจัดให้มีจุดบริการเจล หรือแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ รวมทั้งต้องจัดให้มีเครื่องมือสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและตรวจหาเชื้อโควิด 19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19